เมื่อเดือนมีนาคม ปี 1991 ณ ทะเลทรายในประเทศอิรัค ร้อยเอกอาร์ชี่ย์ เกตส์ (จอร์จ คลูนี่ย์) สิบเอกทรอย แบร์โลว์ (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) จ่าสิบตรี เอลกิ้น (ไอซ์ คิ้วบ์) และพลทหารวิก (สไปค์ โจนซ์) ใช้เวลาหลายสัปดาห์ในฐานทัพให้หมดไปวันๆ เพราะสงครามอ่าวเปอร์เซียดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธสงครามไฮเทคทั้ง สิ้น สงครามแบบนี้ทำให้กำลังพลเบื่อหน่าย และรู้สึกราวกับถูกทิ้งขว้าง ยิ่งเมื่อประกาศหยุดยิงอย่างเป็นทางการด้วยแล้ว พวกเขาก็ยิ่งเร่งนับวันที่จะถูกส่งตัวออกไปจากดินแดนเวิ้งว้างแห่งนี้เสียที ในขณะที่กองทัพอเมริกันเตรียมถอนตัวออกจากฐานทัพกลางทะเลทราย ทรอย เอลกิ้น และวิก ก็เผอิญได้ครอบครองแผนที่บ่งบอกสถานที่ซุกซ่อนทองคำขุมใหญ่ ที่กองทัพอิรักปล้นสดมภ์มาจากชาวคูเวต ไม่ทันจะหายงงกับแผนที่ในมือ และตระหนักถึงผลประโยชน์ที่จะเอื้ออำนวยกับพวกเขา อาร์ชี่ย์ เกทส์ กลับเข้าใจสถานการณ์ และออกคำสั่งอย่างเฉียบพลัน “ เมื่อซัดดัมปล้นมาจากชาวบ้าน ผมก็ไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะปล้นมันต่อจากซัดดัมอีกที งานนี้ไม่เห็นจะยากเย็นตรงไหน และมันก็น่าจะพอเพียงให้เราได้ปลดเกษียณกันเสียที เว้นแต่ว่าจะชอบทำงานไปวันๆอย่างนี้ก็ตามใจ เมื่อฉวยอาวุธติดไม้ติดมือกันไปพอหอมปากหอมคอ ทหารทั้งสี่นายก็กระโจนขึ้นรถ หมายมาดจะปฏิบัติการลับส่วนบุคคลอย่างรวดเร็ว ตามแผนการแล้วพวกเขาน่าจะออกแต่รุ่งสางและกลับมาทันกินมื้อกลางวัน แต่กลับไม่เป็นดังคาด โชคชะตาเล่นตลกกับกลุ่มทหารนักล่าสมบัติกลุ่มนี้ การเดินทางเข้าไปในดินแดนของชาวอิรัก ด้วยความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวกลายเป็นการเผชิญหน้ากับชาวอิรักอย่างซึ่งหน้า เป็นครั้งแรก รวมไปถึงความซับซ้อนของวิถีชีวิตในประเทศผู้ก่อสงครามด้วย ภารกิจคิดฉ้อกลับกลายเป็นการนำไปสู่อีกภาระกิจหนึ่งเสียได้ ยิ่งได้สัมผัสกับความเป็นจริงมากขึ้น ก็ยิ่งเหมือนกับตีแผ่ชีวิตจริงด้วยมุขที่ขำไม่ออก จนกระทั่งทหารทั้งสี่นายเปลี่ยนใจจากเป้าหมายของภารกิจเดิมที่ตั้งใจไว้แต่ แรกไปชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ มันกลายเป็นการผจญภัยเพื่อการค้นพบและการไถ่บาป เป็นการผจญภัยที่พวกเขาจะไม่มีวันลืมเลือน